+ส่วนผสมบัวลอย+ * แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง * เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง (กรณีต้องการบัวลอยหลายสีสามารถเลือกใช้ฟักทอง เพื่อทำบัวลอยสีเหลือง, ใบเตย เพื่อทำบัวลอยสีเขียว, อื่นๆ) * น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง +ส่วนผสมน้ำกะทิ+ * กะทิ 2 ถ้วยตวง * น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม * น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง * เกลือป่น 1 ช้อนชา * เนื้อมะพร้าวอ่อน, ไข่ (จะมีหรือไม่มีก็ได้) * งาขาว (สำหรับแต่งหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้) |
วิธีทำ ทีละขั้นตอน |
1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น) 2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น) 3. ทำน้ำกะทิโดยผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ) 4. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงาขาว เสริฟขณะร้อนหรือรอให้เย็นก็ได้ ไมตรี ลิมปิชาติ บัวลอยมือถือ ![]() เห็นป้ายขายบัวลอยครั้งแรก ทำให้ผมสนใจขึ้นมาทันที สงสัยว่า บัวลอยจะไปเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร แต่พอได้เข้าไปซื้อบัวลอยกิน และได้พูดคุยกับป้าอ้วนผู้ขายบัวลอยจึงได้รู้ความจริงว่า บัวลอยมือถือ หมายถึงไม่มีที่ให้นั่ง ใครมาซื้อกินจะต้องยืนถือถ้วยบัวลอยกิน นั่นเอง ที่จริงไม่ได้เป็นถ้วยโฟมใส่บัวลอย แต่เป็นกะลามะพร้าว ![]() ถูกแล้ว ป้าอ้วนใช้วิธีนำมะพร้าวเผามาผ่ากลาง แบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อใช้ใส่บัวลอยขายให้ลูกค้า บัวลอยมือถือขายดีมาก ผู้ใดไปช้ากว่า 3 ทุ่มก็จะไม่มีให้กิน เพราะขายหมดก่อน ถ้าจะกินต้องรอวันใหม่ ซึ่งจะเริ่มขายตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เกือบลืมบอกไปว่า แผงขายบัวลอยมือถืออยู่ปากทางเข้าตลาดกลางคืน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ไนท์บาซาร์ นั่นแหละ ผู้ใดไปเที่ยวเชียงราย ถ้าพักอยู่ในตัวเมือง ให้ถามคนที่นั่น ทุกคนจะรู้ว่าไนท์บาซาร์อยู่ตรงไหน เหตุที่บัวลอยมือถือขายดีก็เพราะมีหลายรสให้เลือก เริ่มตั้งแต่บัวลอยซ่าหริ่ม บัวลอยวุ้น บัวลอยไข่เค็ม บัวลอยไอศกรีม บัวลอยผลไม้รวม บัวลอยมะพร้าวอ่อน และบัวลอยมะพร้าวเผา เลือกรสชาติที่ชอบได้ตามต้องการ ป้าอ้วนมีชื่อจริงว่า คุณภาณี เชื้อเย็น เล่ารายละเอียดในการขายบัวลอยให้ผมฟังว่า คนอื่นๆ ตักบัวลอยใส่ถ้วยแก้วบ้างโฟมบ้างขาย ป้าอ้วนเห็นว่าไม่จูงใจลูกค้า เธอจึงคิดใหม่ทำใหม่เป็นตักบัวลอยใส่กะลามะพร้าวแทน ใช้ ทั้งกะลามะพร้าวเผาและมะพร้าวอ่อน โดยเอาเนื้อมะพร้าวผสมในบัวลอยเพื่อเพิ่มรสชาติแปลก ใหม่ ส่วนน้ำมะพร้าวแยกไปใส่ขวดขาย เพื่อให้คนที่ชอบกินแต่น้ำมะพร้าวได้กินต่างหาก หรือจะกินไปพร้อมๆ กับบัวลอยก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด สำหรับน้ำมะพร้าวขายขวดละ 5 บาท ไม่ได้เอาเข้าพกเข้าห่อ แต่เอาเงินส่วนที่ขายน้ำมะพร้าวได้ไว้ทำบุญ อีกอย่างหนึ่งที่บัวลอยป้าอ้วนไม่เหมือนบัวลอยเจ้าอื่นๆ ก็คือ เธอจะใช้น้ำตาลทรายแทนน้ำตาลปี๊บ เมื่อผมถามว่าป้าอ้วนเอาสูตรการทำบัวลอยมาจากไหน ป้าอ้วน เผยว่า ไม่ได้เอามาจากไหน เป็นสูตรทำบัวลอยทั่วไปเหมือนๆ กับคนอื่นทำ เพียงแต่มาดัดแปลงและพลิกแพลงให้อร่อยขึ้น จะรู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อยจะต้องให้คนอื่นช่วยชิม ช่วยติ เพื่อหาสูตรให้ลงตัว ปัจจุบัน ป้าอ้วนขายบัวลอยหมดทุกคืน ถ้าเป็นคืนวันศุกร์ กับวันเสาร์ จะขายได้มากเป็นพิเศษ ยิ่งหน้าหนาว ยิ่งขายดี เพราะบัวลอยร้อนๆ ช่วยให้คนกินหายหนาว ขายได้อย่างน้อยๆ ก็ 200 ถ้วยกะลา ราคาขายถ้วยละ 20 บาท เท่ากับได้คืนละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท แล้วยังขายน้ำมะพร้าวได้อีก โดยใช้เวลาขายเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น "ถ้ามีคนอยากขายบัวลอยอย่างป้าอ้วนบ้างควรทำอย่างไร" ผมขอคำแนะนำ เพราะผมเชื่อว่าผู้อ่านเส้นทางเศรษฐีคงมีบ้างที่อยากรู้ ป้าอ้วน แนะนำว่า ถ้าอยากพบกับความสำเร็จในการขายบัวลอยหรือขายของกินอะไรก็ตาม ให้ยึดหลัก 4 ประการ ดังนี้ หนึ่ง ต้องหาทำเลขายที่เหมาะกับขนมที่จะขายให้ได้เสียก่อน สอง ต้องอดทนเพราะการเริ่มขายวันแรกๆ จะขายได้น้อย จนกว่าคนรู้จักจึงขายได้มากขึ้น สาม ต้องมีเงินทุนพอสมควร สายป่านยาวหน่อย มีเท่าไรทุ่มไปเลย ไม่ใช่ว่าขาดทุนเพียงไม่กี่วัน พอเงินทุนหมดก็เลิกขาย ถ้าเป็นเช่นนี้จะหมดโอกาสเติบโต สี่ ต้องรู้จักพลิกแพลงขนมที่จะนำมาขายให้แปลกแหวกแนวกว่าคนอื่น ฟังคำแนะนำของป้าอ้วนแล้ว น่าเชื่อถือ น่าปฏิบัติ สำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นค้าขาย ปัจจุบัน ป้าอ้วนอายุ 56 ปีเข้าไปแล้ว ขายบัวลอยมือถือมาเพียง 10 กว่าปี แต่มีเงินเหลือสามารถซื้อตึกแถวเพื่อย้ายที่ขายบัวลอยเข้าไปอยู่ในตึกก็ได้ แต่ป้าอ้วน บอกว่า ไม่อยากซื้อ อยากเก็บเงินไว้ให้ลูกมากกว่า ข้อมูลจากนิตยสารเส้นทางเศรษฐี ภาพประกอบโดยwww.thaismeboard.com |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น